ภาพยนตร์ที่มี ไชอา เลอบัฟ ไชอา เลอบัฟ (อังกฤษ: Shia LaBeouf อ่านว่า /ˈʃaɪə ləˈbʌf/ “SHY-uh luh-BUFF”2; กำเนิดช่วงวันที่ 11 เดือนมิถุนายน คริสต์ศักราช 1986) ผู้ครอบครองรางวัลเดย์ไทม์เอมมี3 แล้วก็ รางวัลบาฟต้า เป็นผู้แสดง,นักเล่นดนตรีแล้วก็ผู้กำกับคนอเมริกัน ที่มีเชื้อสายไอริช,ประเทศฝรั่งเศส,ฮาวายแล้วก็ประเทศคิวบา ภายหลังที่เติบโตในเมืองแคลิฟอร์เนีย เขามีชื่อเสียงในฐานะผู้แสดงทางช่องดิสนีย์ ในรายการทีวี Even Stevens จากนั้นได้มีหน้าที่ทางภาพยนตร์ ไปถึงเป้าหมายในหน้าที่สมทบจากภาพยนตร์เรื่อง Constantine แล้วก็ I, Robot
ภายหลังที่เขาส่งผลงานแสดงนำในเรื่อง The Greatest Game Ever Played ผู้กำกับและก็ผู้ผลิต สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้เลือกเขาแสดงในรูปภาพยนตร์ในปี 2007 เรื่อง Disturbia และก็ Transformers เลอบัฟได้ร่วมงานกับสปีลเบิร์กอีกครั้งในรูปภาพยนตร์ในปี 2008 เรื่อง ขุมสมบัติสุดขอบฟ้า 4: อาณาจักรหัวกะโหลกแก้ว และก็เรื่อง Eagle Eye มีสื่อมวลชนหลายที่ได้คาดหมายไว้ว่า เลอบัฟ กับผลงานการแสดงของเขา เขาจะเป็นผู้แสดงหัวหน้าในปี 2008
เลอบัฟกำเนิดในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ภาพยนตร์ที่มี ไชอา เลอบัฟ เป็นลูกชายผู้เดียวของเชย์ที่นา (ชื่อสกุลเดิม ไซเด)
นักเต้นแล้วก็นักบัลเล่ต์ที่ผันตัวมาเป็นดีไซน์เนอร์เสื้อผ้าแล้วก็เพชรนิลจินดา แล้วก็เจฟฟรีย์ เคเกลื่อนกลาด เลอบัฟ ทหารมากมายประสบการณ์จากการรบเวียดนาม รวมทั้งว่างงานมาแล้วหลายหน แล้วก็ได้ปฏิบัติงานเป็นตัวขำขันในคณะนักแสดงสัตว์รวมทั้งโรดีโอลิงก์เสีย แม่ของเขากำเนิดรวมทั้งโตในนิวยอร์กเป็นชาวยิวรวมทั้งบิดาของเขาเป็นค้างจัน เลอบัฟโตมาในครอบครัวศาสนาคนยิวและก็เขาก็ได้ผ่านพิธีการสังสรรค์อายุ 13 ปี (B’nai Mitzvah)
ชื่อ “ไชอา” เป็นภาษาฮิบรู หมายความว่า “ของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้า ส่วนสกุล “เลอบัฟ” สติไม่ดีมาจากคำว่า “เลอ เบิฟ” ซึ่งเป็นภาษาประเทศฝรั่งเศส แสดงว่า โค หรือ เนื้อวัว เลอบัฟเคยกล่าวว่า “เขาเป็นคนรุ่นที่ 5 ของผู้แสดง” แล้วก็เขาก็ทราบการแสดงมาตั้งแต่เขาออกมาจากมดลูก11 ตาของเลอบัฟซึ่งมีชื่อต้น ชื่อเดียวกับเขา เป็นดาราตลก ดำเนินการอยู่ที่ Borscht Belt แถบเทือกเขาแคตสกิล แล้วก็คุณย่าของเขาเป็นบีตนิก ประพันธ์รวมทั้งเป็นเลสเบียนที่รู้จักกับอัลเลน รับประทานสเบิร์ก ประพันธ์ที่มีชื่อคนประเทศอเมริกา
เลอบัฟอธิบายครอบครัวเขาว่าเป็น “ฮิปปี้” บิดาของเขามอง “แข็งเสมือนตะปู แล้วก็มองต่างจำพวกจากคนอื่นๆ” และก็เขาถูกเลี้ยงมาแบบ “วิถีที่ฮิปปี้” เขายังกล่าวว่าบิดามารดาของเขา “ค่อนข้างจะแปลกจากคนอื่นๆ แต่ว่าพวกเขาก็รักผมแล้วก็ผมก็รักพวกเขาบิดาของเลอบัฟเคยปลูกกัญชาไว้ และก็ทั้งสองกับดูดกัญชาร่วมกันเมื่อเลอบัฟอายุยง 10 ปีลิงก์เสีย เลอบัฟยังกล่าวว่าบิดาของเขา “ติดยาเสพย์ติด” ตั้งแต่เขายังเด็ก ติดผงขาวรวมทั้งได้เข้าบรรเทาการตำหนิดผงขาวด้วย ในเวลาที่แม่ของเลอบัฟ “เพียรพยายามจะควบคุมไว้”9 บิดามารดาของเขาก็หย่ากัน และก็เขานำเสนอว่า เขาโตมาพร้อมกับแม่ที่ยากจนข้นแค้น (ดำเนินงานขายสิ่งทอแล้วก็เข็มซ่อนปลาย) ในเอวัวขว้างร์ก ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ภาพยนตร์ที่มี ไชอา เลอบัฟ
ทีแรกๆ (1996–2006)
เลอบัฟเคยพูดว่าทีแรกๆที่ก้าวเข้าสู่อาชีพดาราเพราะเหตุว่าครอบครัวเขาแตกสามัคคี ไม่ใช่เพราะเหตุว่าเขาอยากได้เป็นดาราลิงก์เสีย เขาโด่งดังในกลุ่มผู้ชมวัยรุ่นภายหลังเล่นในรายการเฮฮารายสัปดาห์ในช่องดิสนีย์ ในบทหฝ่าส์ สตีเวนส์ ที่ชื่อ Even Stevens เป็นหน้าที่ที่เขารับเล่นภายหลังเซ็นสัญญากับเอเย่นต์ เลอบัฟยังมีส่วนในรายการของช่องดิสนีย์ได้รับความนิยมอีกที่ชื่อ Tru Confessions ได้รับบทที่ท้า เป็นเด็กที่มีพี่สาวที่กำลังทำสารคดีเกี่ยวกับความพิกลพิการของน้องชาย13ลิงก์เสีย เป็นช่วงๆเดียวกับที่บิดาของเขาออกมาจากสถานบำบัดสิ่งเสพติด และก็ได้กลับมาอยู่ในฐานะผู้ดูแลของเลอบัฟอีกครั้งเลอบัฟได้รับรางวัลเดย์ไทม์เอมมีจากหน้าที่หฝ่าส์ รวมทั้งเขาบอกว่า “เขาโตขึ้น” และก็ชีวิตในวัยเด็กของเขาเป็น “ได้หายไป” แม้การได้ร่วมแสดงจะเป็น “สิ่งที่ยอดเยี่ยม” ที่เกิดสังกัดเขา ในตอนนั้นเลอบัฟจะได้มีงานในสเก็ตช์โชว์ในรายการ The Tonight Show with Jay Leno ถัดมาปี 2003 เขาส่งผลงานกับดิสนีย์อีกรอบในรูปภาพยนตร์เรื่อง Holes กับหน้าที่ สแตนลีย์ “เคฟแมน” เยลแนตส์ ที่ 4 แสดงร่วมกับ สิกข์กอร์นีย์ วีเวอร์ , จอน วอยจต์ รวมทั้ง ทิม เบลก เนลสัน เวลาที่ถ่ายทำเรื่อง Holes อยู่ จอน วอยจต์ให้หนังสือเกี่ยวกับการแสดงเขารวมทั้งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาใส่ใจว่าการแสดงมันเป็นอะไรที่มากกว่างาน8 ภาพยนตร์หัวข้อนี้บรรลุผลสำเร็จดีในตารางบ็อกซ์ออฟฟิส สตีเวน สปีลเบิร์กก็ยกย่องกับเลอบัฟในผลงานเรื่อง Holes นี้รวมทั้งยังกล่าวว่า “มันทำให้ฉันรำลึกถึงทอม แฮงส์ในวัยชายหนุ่ม
ในปีเดียวกันนั้นเอง เขามีส่วนร่วมกับสารคดีทางช่องเอชบีโอที่ชื่อรายการ Project Greenlight
ที่เกิดเรื่องราวของภาพยนตร์อิสระเรื่อง The Battle of Shaker Heights เขายังเผยตัวในรูปภาพยนตร์เรื่อง Charlie’s Angels: Full Throttle ในบทแม็กซ์ เพโทรนิ เด็กกำพร้าที่เหล่านางสวรรค์ได้ช่วยเหลือไว้ นอกจากบนจอแล้วเลอบัฟยังช่วยเขียนบทและก็ควบคุมใน Let’s Love Hate ดราม่าเรื่องสั้นที่ชนะรางวัล Children’s Jury Award ในปี 2004 และก็ Children’s Audience Award ในปี 2005 เขามีหน้าที่เล็กๆในรูปภาพยนตร์เรื่อง I, Robot (2004) รวมทั้งแสดงตัวในรูปภาพยนตร์แอ็คชันสยองขวัญเรื่อง Constantine (2005) แสดงร่วมกับเคียนู รีฟส์รวมทั้งราเชล วีสซ์ และก็ในรูปภาพยนตร์ของดิสนีย์เรื่อง The Greatest Game Ever Played สวมบทเป็นฟรานซิส อุยเม็ท ที่ผลิตขึ้นจากข้อเท็จจริงของนักเล่นกอล์ฟที่ยากแค้นที่ชนะในยูเอสโอเพนแชมเปียนชิพ ในปี ในปี 2006 เลอบัฟร่วมแสดงในรูปภาพยนตร์เรื่อง Bobby ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องแก้ผ้าในฉาก เขายังเล่นในบท ดิโต มอนคราวลในรูปภาพยนตร์ครึ่งอัตประวัติเรื่อง A Guide to Recognizing Your Saints ซึ่งรับบทบาทเดียวกันในตอนโตโดยโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เลอบัฟกล่าวว่า เขามิได้เป็น “ผู้แสดง นายแบบของทางช่องดิสนีย์” รวมทั้งพากเพียร “สลัดภาพผู้แสดงดิสนีย์ออกให้เยอะที่สุด”28 รวมทั้งด้วยอายุของเขา ภายหลังจากหน้าที่ทางช่องดิสนีย์ เขาชี้แจงว่า ภาพยนตร์ที่มี ไชอา เลอบัฟ “เป็นที่ที่เลิศและก็ทุกสิ่งทุกอย่าง” รวมทั้ง “เป็นสถานที่ที่กล่อมเกลี้ยงตัวเขา”24 แต่ว่า “มิได้ฟื้นฟูให้กับการเป็นผู้แสดง” เป็น “สิ่งเดิมๆที่เช่นเดียวกัน” เขายังบอกว่า “เขารู้สึกครึกครื้นกับการเป็นผู้แสดงเด็กและก็เขาไม่ชอบการไปสถานศึกษา”
Honey Boy บอกเล่าเรื่องราวของ “โอทิส ลอร์ต”
ดาราวัยรุ่นที่กำลังเดินทางไปได้งามในแวดวง แม้กระนั้นเขากลับก่อปัญหาให้ชราเองโดยตลอด จนถึงจะต้องถูกคุมการปฏิบัติ โดยจิตแพทย์วิเคราะห์ว่าความประพฤติปฏิบัติของโอทิสได้ผลพวงมาจากอาการ PTSD ที่เกิดขึ้นมาจากการเรื่องราวเศร้าโศกในวัยเด็ก โอทิส เพียรพยายามไม่ยอมรับว่าคำพูดของแพทย์ แม้กระนั้นระหว่างที่เขาจำต้องอยู่ในสถานที่คุมการปฏิบัติ เขาก็เบาๆคิดทบทวนย้อนกลับไปทวนชีวิตก่อนหน้านี้ของตน แล้วก็ทำความเข้าใจผู้เป็นบิดาใหม่อีกที
ด้านเรื่องราว Honey Boy เป็นภาพยนตร์ที่ปรับเปลี่ยนมาจากชีวิตจริงของ “ไชอา เลอบัฟ” สมัยก่อนผู้แสดงมีชื่อจากภาพยนตร์ชุด Transformers ที่ในหนังจะเล่าราวความเกี่ยวข้องในวัยเด็กกับบิดาของเขาที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเขามีบิดาที่ติดสุราอย่างมาก แล้วก็ประทุษร้ายเขาอยู่เป็นประจำ โดยหนังจะสะท้อนให้มองเห็นถึงความเจ็บ ความเคร่งเครียดแล้วก็ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจริงที่เกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะรับไหว และก็ความหวาดกลัวที่เขาจำเป็นต้องก้าวผ่านผ่านมันไปให้ได้ ภาพยนตร์ที่มี ไชอา เลอบัฟ
ด้านดาราหนัง ในหัวข้อนี้ “ไชอา เลอบัฟ” อีกทั้งเขียนบทแล้วก็แสดงด้วยตัวเอง โดยเขาแสดงเป็นบิดาของเขาก็แสดงออกมาด้วยความกราดเกรี้ยว บีบคั้น รวมทั้งร้ายแรง สมจริงสมจังเนื่องจากมันคิอประสบการณ์ตรงที่วัยเด็กของเขาได้พบมา “โนอาห์ จูป” ศิลปินเด็กที่เคยฝากผลงานการแสดงในรูปภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง A Quiet Place ที่สวมบทเป็น โอทิส (วัยเด็ก) ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและก็จิตใจที่พบในวัยได้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และก็ “ลูคัส เฮ็ตจส์” คนรับบท โอทิส (วัยรุ่น) ก็แสดงเป็นวัยรุ่นที่มีเงื่อนในวัยเด็กเจริญ offbeatenough
เล่าสองปีผ่านไป นับตั้งแต่เด็กหนุ่ม แซม วิทวิคกี้ (ไชอา เลอบัฟ)
ได้ช่วยจักรวาลให้รอดพ้นจากศึกขั้นเด็ดขาดระหว่างหุ่นยนต์จากต่างดาวที่กำลังทำศึกกันอยู่ แม้ว่าจะสร้างความกล้าหาญอันกล้าหาญชาญชัยเต็มที่มาแล้ว แม้กระนั้นแซมยังคงเป็นวัยรุ่นปกติที่มีปัญหาว้าวุ่นใจไม่เว้นวันแล้ววันเล่า ไม่ว่าจะเกิดเรื่องการจะต้องไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัย การจะต้องทิ้ง ไม่เคล่า (มีแกน ฟ็อกซ์) แฟนสาวของเขาเอาไว้ที่ภูมิลำเนา และก็จำเป็นต้องแยกห่างจากบิดามารดาของเขา รอน แล้วก็จูดี้ (เควิน ดันน์ และก็จูลี่ ไวท์) เป็นครั้งแรก แน่ๆ ยังมีเรื่องมีราวกังวลใจอื่นๆอีกเมื่อแซมจะต้องเพียรพยายามชี้แจงให้เพื่อนฝูงใหม่ของเขาฟังว่าเพราะเหตุไรเขาถึงจำต้องจากมา สหายคนใหม่ที่ว่าก็คือหุ่นยนต์ที่รอป้องกันดูแลเขาอย่างบัมเบิลบี สำหรับแซมแล้ว จุดหมายของเขาก็คือการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างเด็กนิสิตปกติแต่ว่าการจะประพฤติตนให้ปกติได้ เขาจำเป็นต้องทำเป็นไม่สนใจชะตากรรมของตัวเขาเองซะก่อน
ในเวลาเดียวกันคุณครูของเมกะทรอนหรือเดอะฟอลเล่น (The Fallen) ผู้จัดตั้งดีเซ็ปว่ากล่าวคอนส์ อยากให้เมกะทรอน ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็เลยได้ส่งลูกน้องที่นำโดยแรฟเวจ (Ravage)ไปกู้เมกะทรอนคืน เมื่อพวกลูกน้องของเดอะฟอลเล่น (The Fallen)ไปถึงใต้สมุทร โม้เบีย (Wobia)ก็เลยบอกให้นำองค์ประกอบของ สแครปเปอร์ (Scraper)มาเป็นองค์ประกอบสำหรับในการปลุกเมกะทรอน ซึ่งเมื่อเมกะทรอนฟื้นขึ้นมา การศึกก็เลยเกิดขึ้นอีกที
ในเวลาที่แซม เพียรพยายามทำดีที่สุดเพื่อทิ้งปัญหาต่างๆเอาไว้ที่มิสชั่นสิตี้
รวมทั้งกลับไปดำเนินชีวิตทุกวันตามเดิม อย่างไรก็ตาม การสู้รบระหว่างพวกออโต้บ็อทส์ กับดีเซ็ปว่ากล่าวคอนส์ ซึ่งดำเนินไปอย่างลับๆได้นำมาซึ่งความเคลื่อนไหวเยอะมาก เซ็คเตอร์ 7 ถูกยุบไป รวมทั้งข้าราชการซิมม่อนส์ (จอห์น เทอร์เทอร์โร่) นายทหารผู้จงรักภักดีกับเซ็คเตอร์ 7 ถูกไล่ออก แล้วก็ที่ถูกตั้งมาแทนที่ก็คือเนสท์ (NEST) หน่วยงานใหม่ ซึ่งเลือกใช้งานนายทหารผู้มีประสบการณ์ภาคสนามอย่างเลนน็อกซ์ (หน้าจอช มองฮาเมล) แล้วก็เอ็ปป์ส (ไทรีส กิ๊บสัน) บากบั่นหาวิธีดำเนินการเคียงคู่ไปกับกรุ๊ปออโต้บ็อทส์ เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกดีเซ็ปว่ากล่าวคอนส์ โชคร้ายที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงและยั่งยืนแห่งชาติ ธีโอดอร์ กัลโลเวย์ (จอห์น เบ็นจามิน ฮิคกี้) เสมือนจะมองเห็นถึงอันตราย ด้วยความเอาจริงเอาจังที่จะครอบครองอำนาจควบคุมของหน่วยงานทุกหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม รวมถึงอำนาจของแต่ละหน่วยงานพวกนั้น ช่วงเวลาเดียวกันก็จะได้กำจัดหน่วยงานรัฐบาลที่เขามีความคิดเห็นว่าไม่สำคัญทิ้งไป กัลโลเวย์ ก็เลยเพียรพยายามปิดเนสท์ ทิ้ง โดยเขามั่นใจว่าภัยรุกรามจากการศึกที่สร้างความพินาศของกรุ๊ปหุ่นยนต์ต่างดาวสองกลุ่มนี้ได้ล่วงเลยไปแล้ว เขามั่นใจว่ามนุษย์ไม่สนใจในการขัดกันที่ออโต้บ็อทส์ มีต่อพวก ดีเซ็ปติเตียนคอนส์