the shallows 2016 Movie From That Day” หนังประเด็นนี้ฉายเมื่อวันนั้น เป็นการพาทุกคนย้อนกลับไปให้ชักชวนนึกถึงผลงานหนังเรื่องอย่างเดิมออกฉายที่โรงหนังประเทศไทย โกรธาทึกดวงใจกับหนังได้รับความนิยมเกินคาดที่มากับรายละเอียดที่จะต้องทำให้หัวใจเร็วรัว กับหนังเอาชีวิตรอด “The Shallows” (เมืองนรกน้ำตื้น) ปลาฉลามหิวโหดเหี้ยมที่ต้อนหญิงสาวเป็นเหยื่อกึ่งกลางสมุทร ที่เปลี่ยนเป็นหนังได้รับความนิยมแบบเหนือความหวังเมื่อปี 2016
The Shallows เกิดเรื่องราวของ แนนซี่ นักเล่นกระดานที่เอาไว้เล่นโต้คลื่น ที่ได้เลือกดำรงชีวิตตอนวันหยุดบนเกาะที่เป็นเสมือนสรวงสวรรค์ของนักโต้คลื่น แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่งเกาะที่เป็นเหมือนดั่งสรวงสวรรค์ที่นี้ กลับมีสัตว์ร้ายใต้สมุทรอย่าง ปลาฉลาม บุกโจมตีใส่คุณอย่างคลุ้มคลั่ง งานนี้คุณจะเอาชีวิตรอดจากหายนะคราวนี้ได้หรือเปล่า
หนังขึ้นแท่นได้ผลงานระดับมาสเตอร์พีชของ “เบลค ไลฟ์ลี่” ไปอีกหัวข้อ หนังได้ผลสำเร็จหน้าที่ควบคุมของ “โจเม่ วัวลเล็ต-เซอร์ร่า” ที่ได้ดีเนื่องจากหนังประเด็นนี้แท้ๆตอนนี้เขาได้รับจังหวะใหญ่ๆควบคุมหนังฟอร์มยักษ์แถวหน้าของฮอลลิวูดล้วนๆแต่ว่าสำหรับใน The Shallows เป็นหนังเล็กๆที่มอบอารมณ์ที่น้อยแต่ว่ามากมาย เต็มไปด้วยความเขย่าขวัญรวมทั้งกระตุกความเสียวของผู้ชมได้อย่างถูกจังหวะ
ดูหนังออนไลน์ the shallows 2016
My Fault คำพูดขอโทษ” ผนึกความโรแมนซ์อีโรติกยั่วๆ ในเมื่อค่ายสตรีมมิ่งฝั่งตรงข้ามผลิตหนังรักอีโรติกออกมาสร้างกำไรมหาศาล มีหรือที่จะอยู่เฉยๆได้ โน่นก็เลยทำให้ ไพร์ม วิดีโอ ไม่คอยช้าได้อนุมัติหาหนังยั่วๆบดๆแนวนี้มาเติมเต็มบริการของตน ด้วยความคาดหวังว่าน่าจะสร้างเป็นเฟรนไชส์ได้กับเขาบ้าง ก็เลยเปลี่ยนเป็นสาเหตุของหนังประเทศสเปน “My Fault คำพูดขอโทษ (Culpa mía)” ที่ติดหน้าเอาไว้ว่าเป็นหนัง 18+ วัยรุ่นรสร้อนเร่า แต่ว่ามันจะรุ่มร้อนแค่นั้นไหม
My Fault คำพูดขอโทษ เกิดเรื่องราวของ โนอาห์ เด็กหญิงที่กำลังอายุปิ้งวัย 18 คุณฝืนใจย้ายออกจากเมืองและก็ห่างจากเพื่อนพ้องกับแฟนชายหนุ่ม เพื่อไปอาศัยอยู่กับแม่รวมทั้งผัวใหม่ของคุณที่มีแมนชั่นหรูหราหาดทรายชานเมือง และก็ตรงนั้นคุณก็ได้เจอกับ นิค ที่เปลี่ยนมาเป็นพี่ชายคนละแม่ของคุณไปโดยปริยาย พวกเขาแทบเหมาะมิได้เลย กลับมาบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้พวกเขาเย้ายวนใจเข้าพบกันด้วยแรงประสงค์เกินจะต้านทาน
บอกกันตรงๆถ้าว่าคุณรู้สึกมันรวมทั้งเบื่อไปกับหนังรักแนวอีโรติก the shallows 2016 ที่ผลิตออกมาทางช่องออนไลน์เยอะไปหมดในตอน 3-4 ปีมานี้ รู้สึกว่าประเด็นนี้ก็คงจะบอกผ่านไปได้อยู่ เพราะว่านี่เป็นหนังที่เกือบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ประหนึ่งว่าถือจับเอาหนังหัวข้อนั้นประเด็นนี้มายำรวมมิตรเป็นอีกจานใหม่ มาเสิร์ฟให้มองเฉยๆซ้ำความร้อนแรงของหนังก็แค่ระดับนักเรียนประถม เพราะเหตุว่ามันยังคงคอนเซ็ปต์หนังรักวัยรุ่นอยู่นั่นเอง
“โดมิงโก กอนซาเลซ” มารับหน้าที่ทั้งยังดูแลแล้วก็เขียนบทหนังประเด็นนี้ โดยปรับเปลี่ยนมาจากนิยายโรแมนซ์สามภาคเรื่องดัง Culpables เอาจริงเอาจังๆประสบการณ์ของเขาจัดว่ายังออกจะน้อย เพราะว่า My Fault น่าจะเป็นงานดูแลหนังยาวเรื่องแรกของเขามั๊ง เพราะว่าจากที่มองเครดิตผลงานเก่าๆของเขา มีงานควบคุมมิวสิควิดีโอกับซีรีส์เล็กๆน้อย เมื่อมาจับจับทำหนังยาวประเด็นนี้ ผลสรุปที่ออกมามันก็เลยค่อนข้างจะคล้ายกับมิวสิควิดีโอฉบับยาว ยาวไปกระทั่งเริ่มจะน่ารำคาญ
ก็อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า My Fault เกือบจะไม่มีอะไรใหม่เลย หนังเกือบจะดึงเอาสูตรสำเร็จเก่าๆมายำใหม่ แบบที่เฟรนไชส์ 365 Days หรือหนังชุด After เคยทำเอาไว้ได้ปัง(แบบบังเอิญ) แต่ว่ามีอารมณ์คลุกความเป็นประเทศสเปน กลิ่นเดียวกับที่พวกเราเคยได้มองจาก Through My Window อะไรทำนองนั้น มันเป็นหนังน้ำเสียที่แทบไม่มีใจความอะไรสักเท่าไหร่
Are You There God? It’s Me, Margaret วันนั้น..ของมาร์กาเร็ต รวมทั้งนี่เป็นหนึ่งในหนังเล็กๆที่กระแสสะดุดตาเรื่องหนึ่งในตอนครึ่งแรกของปี 2023 เนื่องจากมันเป็นหนังสไตล์ Coming-of-Age ที่ปรับเปลี่ยนผลิตขึ้นจากวรรณกรรมขายดิบขายดี ที่แทรกสอดเรื่องการเติบโตของวัยเด็กได้อย่างสวย นี่ก็คือ “Are You There God? It’s Me, Margeret วันนั้น..ของมาร์กาเร็ต” ที่จะมาทำให้ท่านจะต้องเผลอยิ้มให้กับน้อง และก็สุขใจไปกับการศึกษาที่จะก้าวสู่อีกวัยของเด็กสมัยก่อน
Are You There God? It’s Me, Margaret วันนั้น..ของมาร์กาเร็ต เกิดเรื่องราวของเด็กผู้หญิงวัย 12 ปีที่ชื่อ มาร์กาเร็ต ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น เปรียญ6 อย่างสุขสบายในมหานครนิวยอร์ก แม้กระนั้นแล้วหลังจากนั้นก็ราวกับฟ้าผ่าลงมา ด้วยเหตุว่าคุณจะต้องย้ายบ้านตามบิดามารดาไปอยู่ที่นิวพบร์ซีย์ ทำให้จำเป็นต้องผูกสัมพันธ์กับสหายใหม่ สังคมใหม่ แล้วก็ได้ศึกษาที่จะเติบโตด้วยวิถีใหม่ๆในมุมของคุณ จนกระทั่งคุณได้รับปัญหาจากอาจารย์ประจำชั้นให้ทำแผนการเกี่ยวกับเรื่องศาสนา เนื่องจากคุณเป็นผู้ที่ยังมิได้ตกลงใจเลือกว่าจะเชื่อในศาสนาใดเลย
ลำดับแรกเลย…คงจำต้องชูให้นี่เป็นหนัง Coming-of-Age ที่น่ารักที่สุดในปีนี้เลย ยอมรับตามจริงว่าเกือบจะมิได้ทำการบ้านใดๆก็ตามก่อนที่จะมาดูหนังประเด็นนี้ ไม่มีรากฐานว่าเกิดเรื่องเกี่ยวกับอะไร หรือเปล่าได้รีเสิร์ชเลยว่าเป็นนิยายของผู้ใด เข้ามาดูหนังประเด็นนี้แบบหัวเตียนๆแม้กระนั้นได้รับสารที่นอนก้นออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เป็นหนังชั่วโมงเศษๆที่ทำให้พวกเรายิ้มตามได้ตลอดระยะเวลา รวมทั้งคิดว่าต้องการจะมองชีวิตน้องมาร์กาเร็ตอีกจังเลย
แล้วก็เพียงพอมองเห็นชื่อผู้กำกับ..ก็จะต้องร้องอ้อโดยทันที เนื่องจากนี่เป็นงานแนวถนัดของคุณเลยก็ว่าได้ คุณเป็น “เคลลี่ เฟรมอน เคร็ก” ที่พวกเราคงจะรู้จักดีผลงานก่อนหน้าที่ผ่านมาของคุณอย่างดีเยี่ยมใน The Edge of Seventeen ก็นับว่าเป็ฯหนังทำความเข้าใจที่จะเติบโตของวัยเด็กวัยรุ่นเช่นเดียวกัน เพียงแค่ประเด็นนี้มีจังหวะการเล่าที่ถือเอาหัวข้อในช่วง ที่มีเบื้องหลังเป็นในตอนปี 1970s กับเรื่องของศาสนาเข้ามาเป็นพล็อตรอง ที่จัดว่าหลักสำคัญของหนังแข็งแรงดีทั้งสองเลย
หนังดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากนิยายขายดิบขายดีชื่อเดียวกันของ “จูดี้ บลัม” ที่เจ้าภาพเขียนก็ได้มารับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังให้เองด้วย ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไปด้วยกับผู้กำกับหญิงคนเก่งนั่นเอง ก็เลยทำให้อรรถรสของ Are You There God? It’s Me, Margaret ออกมาได้พอเหมาะพอเจาะ พอดิบพอดี แล้วก็น่ารักน่าชังในหลายๆอณูที่หนังได้เลือกพรีเซ็นท์ออกมา เป็นหนังที่เล่าช่วงชีวิตที่ทุกๆคนต้องผ่านประสบการณ์พวกนั้นมากันทั้งหมด
Transformers: Rise of the Beasts
ดูเหมือนเฟรนไชส์หนังหัวข้อนี้จะยังไม่ยินยอมตายแล้วก็จบลงไปกล้วยๆหากว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามันจะออกจะทิ้งไว้ด้วยทางที่สกปรกน่าดูไม่น้อย แม้กระนั้นการกลับมาคราวนี้จะเป็นความหวังครั้งใหม่ได้หรือเปล่า เนื่องจากนี่เป็น “Transformers: Rise of the Beasts ทรานส์ฟอร์เมอร์ส: เกิดจักรกลยักษ์” ที่ยังจัดได้ว่าเป็นหนังฉบับรีบูตรวมทั้งเป็นภาคต่อจากหนังเรื่องที่แล้ว ยังคงเป็นภาคย้อนเวลากลับไปอยู่ แม้ว่าจะค่อนข้างจะหลาบจำ…แต่มาอีกยังไหวอยู่อีกหรือ?
Transformers: Rise of the Beasts ในเวอร์ชั่นเป็นการเล่าสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1994 กับการเสี่ยงอันตรายแล้วก็ต่อสู้ครั้งสำคัญของเหล่าสมาชิกจักรกล ออโตบอตส์ ที่พวกเขาต้องหาวิถีทางสำหรับการกลับดวงดาวของตนเอง ซึ่งโน่นทำให้จะต้องมาประสานมือผนึกกำลังกับเหล่าจักรกลเผ่าใหม่ที่ชื่อว่า แม็กซิมอลส์ บนโลกมนุษย์ ท่ามกลางวิกฤติการณ์ที่ยังถูกพวกดิเซปติเตียนคอนส์มานะรุกราน หาวิธีกลืนรับประทานดวงต่างๆไปทั่วกาแลกเปลี่ยนซี
อาจจะจำต้องยอมรับสารภาพตามจริงกับคุณนักอ่านทุกคนเลยว่า the shallows 2016 สำหรับหนังชุด Transformers นั้น ทางพวกเราออกอาการเทไปรวมทั้งเลิกมองไปครู่หนึ่งใหญ่ๆคงจะนับจากภาคที่ 2 เลยด้วย (ซึ่งคิดออกลางๆว่าทนมองได้ไม่จบ) ถึงแม้ว่าจากนั้นมันจะยังคงถูกทำออกมาเป็นภาคที่ 3-4-5 เป็นลำดับ แม้กระนั้นก็มิได้ติดตามหรือพอใจเฟรนไชส์หนังหัวข้อนี้ต่อ จะมีก็แค่กลับมามอง “Bumblebee” เมื่อไม่กี่ปีกลาย เพราะเหตุว่ามีความคิดเห็นว่าเป็นภาคต้นรวมทั้งมีความเป็นภาคแยก
และก็เมื่อได้ได้โอกาสกลับมาเปิดใจมองต่อในภาคนี้ น่าจะจำเป็นต้องใช้ว่า…เซอร์ไพรส์อยู่เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุว่า Transformers: Rise of the Beasts เปลี่ยนเป็นฉบับปรับแก้ใหม่ที่นับว่าหลายๆอย่างลงร่องลงรอยเพิ่มขึ้น เทียบได้กับเสน่ห์ที่เคยสัมผัสได้ตั้งแต่หนังภาคแรกที่สร้างประสบการณ์ดูหนังที่ตื่นตาตื่นใจได้เรื่องหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ จัดว่าส่วนประกอบบางสิ่งบางอย่างของหนังชุดนี้ได้ถูกจัดระบบขึ้นให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
เป็นจะว่าไป Transformers: Rise of the Beasts ก็แทบไม่มีอะไรที่แปลกใหม่สักเท่าไหร่ movie free-hd โดยเฉพาะอย่างยิ่งพล็อตหนังกับเค้าเรื่อง ที่ก็ยังคงวนๆซ้ำเดิมอยู่กับภารกิจตามหาอะไรสักอย่างอยู่อย่างเคย มันยังคงใช้ความเป็นสูตรสำเร็จเข้ามาแต่งแล้วก็เดินเรื่องไปอย่างซ้ำซาก แต่ว่าจุดที่ไม่เหมือนกันกับเดิมของหนังชุดนี้ ก็คงเป็นการปรักปรำมนุษย์เข้ามามากขึ้นในหนัง ทำให้เติมแต่งความรู้สึกนึกคิดให้กับตัวหนังได้มากขึ้น มิได้รู้สึกแข็งทื่อแบบจักรกลล้วนๆต้นแบบ “ไมเคิล เบย์” สร้างเอาไว้หลายต่อหลายภาค
ภาคนี้ใช้กลุ่มเขียนบทหนังออกจะอัดแน่นทีเดียว the shallows 2016 ทั้งยังคนเขียนคนใหม่รวมทั้งยอดความสามารถมาช่วยเหลือกัน โดยได้คู่หูผู้เขียนบทจากหนังดัง อย่าง Red ทั้งคู่ภาค แล้วก็ได้ “โจบี้ ฮาโรลด์” จากหนัง John Wick: Chapter 3 มาช่วยตบๆให้เข้าที่เข้าทาง ทำให้เปลี่ยนออกมาเป็นบทสูตรสำเร็จแบบหนังซัมเมอร์ฮอลลิวูด แม้กระนั้นยังซ่อนเร้นไปได้กิมไม่กที่มีหัวจิตใจรวมทั้งความบากบั่นสร้างโมเมนต์โอคอนิกต่างๆที่พอเพียงจะเซอร์วิสแฟนหนังได้ในระดับที่ดี
ภาคนี้สลับตัวมาทดลองใช้ผู้กำกับดาวรุ่ง “สตีเว่น ค้างเปิล จูเนียร์” ที่เคยวาดลวดลายออกจะดีงามใน Creed II มาก่อน จำต้องนับว่าเขาเข้ามาช่วยละเลงหนังหัวข้อนี้ให้ได้ออกมาในระดับที่น่าพึงพอใจ บางครั้งอาจจะมิได้เน้นย้ำการปะทุเทือกเขาเผากระต๊อบ แบบที่คนก่อนเคยปูทางเอาไว้ แต่ว่าจังหวะงานแอคชั่นของเขาก็จัดว่ากำลังอร่อยใช้ได้พอได้ แล้วยังฝึกใส่ทำนองดราม่าเบาๆเข้ามาเสริมเป็นไซต์สตอปรี่อยู่เสมอ ทำให้รสของหนังที่เต็มไปด้วยจักรกลแข็งทื่อๆมองละมุนเพิ่มขึ้นแบบสัมผัสได้
