ดูหนังออนไลน์ ชัด พากย์ไทย รีวิวหนัง “The Roundup: No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างแดนนรก ตีเมืองนรกแตก” ยังคงความหมัดหนัก! ถ้าย้อนกลับไปในขณะเดียวกันนี้เมื่อปีที่ผ่านมา พวกเราก็ได้ลุ้นสนุกสาแก่ใจสุดๆกับ The Roundup แล้วพอเพียงผ่านผ่านพ้นมา 1 ปีเต็ม ตำรวจสายลับหมัดโหดเหี้ยมเขาก็กลับมาอีกรอบ..เวลาเดิมอีกทีกับหนังภาคใหม่ “The Roundup: No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างเมืองนรก ตีเมืองนรกแตก” ที่ขณะนี้มันได้เปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งจักรวาลหนังแอคชั่นผสมฮาอันมีคุณค่าของแวดวงหนังประเทศเกาหลีไปแล้ว แล้วก็ดูอย่างกับว่าจะยังขยายรวมทั้งสืบต่อออกไปได้กว้างไม่ธรรมดา
ดูหนังออนไลน์ ชัด พากย์ไทย สำหรับใน The Roundup: No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างแดนนรก ตีแดนนรกแตก
ภาคนี้ยังคงจุดโฟกัสที่สายคนสนิท มาซอกโด ได้มาร่วมกลุ่มกับหน่วยทำการสืบสาวใหม่ ที่มี จองแทซู รับหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม พวกเขาจำเป็นต้องเจอหน้ากับศัตรูใหม่ที่มีอำนาจ อย่าง จูซองชอล ลูกชายผู้สืบสกุลมหาเศรษฐีที่เลื่องลือไปทั่วเมือง พร้อมกับยังมีกรุ๊ปกลุ่มยากูซาเข้ามาพันพัวเกี่ยวข้องกับคดีใหม่ที่เขาจะต้องสะสางอีกด้วย
แล้วก็แน่ๆว่าภาคนี้ ผู้กำกับคนเดิม “อีซางยง” ก็ยังคงกลับมารับหน้าที่อีกเหมือนปกติ แล้วก็ดูราวกับว่าหนังก็จัดการสร้างออกจะเร็วไว โดยที่ไม่ต้องปรับจูนอะไรมากมาย เพราะว่าคณะทำงานรวมทั้งผู้แสดงนำฝ่ายก็ยังคงเป็นที่เคยชินสำหรับในการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว รวมทั้งนี่ก็เลยแปลงเป็นอีกหนึ่งในความแข็งแกร่งมากมายๆของหนังชุดนี้ ที่มันได้เป็นจักรวาลหนังประเทศเกาหลีที่อยู่แถวหน้าของแวดวงในขณะนี้ไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ดูหนังออนไลน์ฟรีหนังใหม่ รวมทั้งพวกเราเชื่ออย่างยิ่งว่า คงจะได้โอกาสได้มองเห็นภาค 4-5-6 ถัดไปอีกเรื่อย ดูหนังออนไลน์ ชัด พากย์ไทย
แม้กระทั่งบอกตามหลักแบบขวานผ่าซากนั้น The Roundup: No Way Out ดูหนังออนไลน์ ชัด พากย์ไทย
ก็เต็มด้วยแพ็คเกจสูตรสำเร็จแบบเดิมๆแทบไม่แตกต่างจากภาคที่แล้วสักเท่าไหร่ จังหวะแล้วก็ท่าทางคล้ายคลึงกัน เพียงพล็อตเรื่องรวมทั้งภารกิจที่เปลี่ยนไปเพียงแค่นั้น บทหนังก็แทบไม่มีอะไรเลย เน้นย้ำความเด่นอยู่ที่สายซอกโดด้วยพลังอันทรงเสน่ห์แล้วก็ล่ำสันของเขา เป็นถือได้ว่าไฮไลต์แล้วก็จุดขายที่สะดุดตาที่สุดของหนังชุดนี้อยู่แล้ว
ในทางของความสดใหม่นั้น หนังบางทีก็อาจจะหาไม่ค่อยได้มาก กลับจำต้องชูความดีความชอบให้กับความเบิกบานใจ ที่หนังมอบอรรถรสได้อย่างอัดแน่น บอกได้เลยว่าตลอดเวลาชั่วโมงกว่าๆของหนังประเด็นนี้ เกือบจะไม่มีซีนไหนที่น่าระอาเลย เพราะว่าหนังถูกร้อยเรียงมาด้วยความรื่นเริงใจที่ตอบปัญหาคนดูและแฟนหนังอย่างดีเยี่ยม พวกเขาทราบดีว่าผู้ชมอยากได้อะไร ต้องการมองเห็นซีนแอคชั่นแบบไหน แล้วก็มันก็ยังมันสม่ำเสมอดังเช่นเดิม
มาดงซอก ก็ยังคงขับเสน่ห์และก็สร้างติดอยู่แรกเตอร์นี้ออกมาในลักษณะของเขา ที่ขณะนี้มันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพลักษณ์ของเขาไปเสียแล้ว หากว่าหน้าที่การแสดงของเขาจะบ่อยๆเดิมๆแม้กระนั้นมันยังคงเป็นตัวละครที่ยังขายได้แล้วก็ผู้ชมก็ยังซื้อ ต้องการจะมองเห็นเขาในท่าทางการแสดงรวมทั้งหน้าที่ตลกขบขันหน้าเฉยอะไรแบบงี้ รวมทั้งยังบู๊ดีเดือดได้จัดจ้า ซึ่งในภาคนี้เขาก็รับหน้าที่เพิ่มหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นก็เป็นผู้ผลิตร่วม
ผู้แสดงสมทบที่เข้ามาเสริมกองทัพให้ภาคใหม่นี้ ได้ดารานำชายชายหนุ่ม “อีจุนฮยอก” ที่พวกเราชอบมองเห็นเขาเล่นบทคนดีอยู่ในซีรีส์ประเทศเกาหลีอยู่เรื่อยแม้กระนั้นมากลับติดอยู่แรกเตอร์แบบชั่วเต็มขั้นในหัวข้อนี้ ก็นับได้ว่าเป็นความท้าของเขาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าการเป็นคนชั่วในฉบับที่เขาตีความหมายออกมานั้น บางครั้งอาจจะมองแข็งทื่อและไม่เป็นธรรมชาติไปหน่อย แต่ว่าอย่างต่ำๆเขาก็บากบั่นสื่อออกมาทั้งยังแววตารวมทั้งเค้าหน้า เพียงภาพเป็นคนดีของเขายังคงติดอยู่หน่อยๆ
หนัง Creed III หรือชื่อไทยว่า ครี้ด 3 ผลงานจาก Metro Goldwyn Mayer Pictures สู่ “Creed III” กับ ไมเคิล บี. จอร์แดน ผู้ผันตัวมารับหน้าที่ควบคุมภาพยนตร์ รวมทั้งกลับมาสู้หน้าหน้าที่ อโดนิว ครีด ในภาคต่อลำดับที่สามของแฟรนไชส์ดัง ภาพยนตร์ร่วมแสดงโดย เทสซา ธอมป์สัน (แฟรนไชส์ “Creed”, “Passing”), โจนาธาน เมเจอร์ส (“Da 5 Bloods,” “Lovecraft Country”), วูด แฮรร์ริส (แฟรนไชส์ “Creed”, “Blade Runner 2049”), ฟลอเรียน มันทิอานู (“Creed II,” “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings”) พร้อมดาราคนใหม่ ไม่ลา เคนท์, ฟิลิเซีย ราเชด (แฟรนไชส์ “Creed”, “Soul”) จอร์แดน ควบคุมภาพยนตร์จากบทภาพยนตร์เขียนโดย คีแนน คูสหายร์ (“Space Jam: A New Legacy”) รวมทั้งแซ็ค เบย์ลิน (“King Richard”) จากเรื่องราวโดย ไรอัน คูเพื่อนร์ (“Black Panther: Wakanda Forever”) รวมทั้ง คีแนน คูสหายร์ รวมทั้งแซ็ค เบย์ลิน อำนวยการสร้างโดย เออร์วิน วิงก์เลอร์, ชาร์ลส์ วิงก์เลอร์, วิลเลียม
ชาร์ตอฟฟ์, เดวิด วิงก์เลอร์, ไรอัน คูสหายร์, ไมเคิล บี. จอร์แดน, เอลิซาเบ็ธ ราโปโซ, โจนาธาน กลิกแมน แล้วก็สิลเวสเตอร์ สตอลโลน ควบคุมการผลิตโดยกลุ่มเอ็กซ์เซ็กคูครั้งฟ เซฟ โอฮาเนียน, สินซี คูสหายร์, นิโคลัส สเติร์น รวมทั้งอดัม โรเซ็นเบิร์ก พร้อมกลุ่มเบื้องหน้าเบื้องหลังประสิทธิภาพ ผู้กำกับภาพ เครเมอร์ มอร์เก็นธู (“Creed II,” “Thor: The Dark World”), ดีไซน์เนอร์งานสร้าง จาห์ไม่น อัสซา (“mid90s,” “Angelyne”), นักตัดต่อ ไทเลอร์ เนลสัน (“The Batman,” “Rememory”), ดีไซน์เนอร์เสื้อผ้า ลิซ วูล์ฟ (“Creed II,” “Pacific Rim: Uprising”) ประพัมธ์เพลงประกอบโดย โจเซฟ เชอร์ลีย์ (“Jackass Forever,” “The Book of Boba Fett”)
การกลับมาอีกรอบของแฟรนไชส์ Creed ที่ย้อนไปภาคที่ 2 ก็เป็นระยะเวลากว่า 5 ปีมาแล้ว และไม่คิดเพราะว่ามันจะมีภาคต่อออกมา จุดเริ่มตั้งแต่ 8 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของ Adonis Creed (Michael B. Jordan) นักมวย no name underdog ลูกชายของนักต่อยมีชื่อเสียง Apollo Creed ที่อุตสาหะสร้างชื่อให้ทางการต่อยของตนของ ฝึกซ้อมและก็บ่มเพาะโดย Rocky Balboa (Sylvester Stallone) จนถึงก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลก แล้วก็ในคราวนี้มันเป็นการก้าวเข้ามาดูแลหนังหนแรกของตัว Michael B. Jordan ด้วย
ในภาคนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของ Adonis Creed ที่จำเป็นต้องมารับมือกับสมัยก่อนอันมืดมนที่มาในลักษณะของเพื่อนรัก Damian Anderson (Jonathan Majors) ทำให้ Creed จะต้องประจันหน้ากับอดีตกาลที่มากกว่าการลงสังเวียน
อย่างที่บอกไปย่อหน้าแรกว่าไม่คิดว่ามันจะมีภาคต่อ แล้วก็นึกไม่ออกว่าเรื่องราวมันจะออกทางไหนได้ เอาจริงเอาจังๆภาคสองจบงามละนะ พอเพียงมาในภาคนี้เรื่องราวมาเล่นกับอดีตกาลในวัยเด็กของ Adonis ส่วนตัวก็มีความรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะแถละจับยัดไปเสียหน่อย ซึ่งมันไม่เคยมีการเอ๋ยถึงกล่าวถึงหรืออะไร เพียงพอจู่ๆมันโผล่มาก็แปลกๆกำเนิดเป็นดราม่าต่างๆมาก เป็นเสมือนเรื่องมันอุตสาหะให้ Adonis กับ Damian ต่อยกันให้ได้ มันมองไม่ค่อยมีเหตุผลสักเท่าไหร่
นี่เป็น Creed ภาคที่มีความยาวสั้นที่สุดในแฟรนไชส์อย่างยิ่งจริงๆ กลับมีข้อความสำคัญมากไม่น้อยเลยทีเดียวให้เอ่ยถึง ทั้งยังเรื่องสมัยก่อน, เรื่องแฟน, เรื่องลูก, เรื่องแม่ ซึ่งมันไม่สามารถที่จะจัดการหมดทุกข้อความสำคัญได้ ถึงแม้ว่าจะบางประเด็นสะสางก็มิได้ลงลึกเชิญชวนให้อินตามในหัวข้อในเรื่อง ดูหนังออนไลน์ ชัด พากย์ไทย
เรื่องที่โชคร้ายที่สุดเป็นการไม่มีผู้แสดงอย่าง Rocky Balboa มันทำให้ดราม่าเบาลงอย่างชัดเจน การไม่มี Mentor มารอชี้แนะรอแนะนำ เตือนสติ ราวกับอย่างภาคก่อนๆก็ทำให้เสน่ห์อะไรบางอย่างมันหายไป ในด้านของบทรู้เรื่องได้ว่านักแสดง Adonis เติบโตแล้ว ต้องการหลุดพ้นจากอดีตกาลผู้แสดงอย่าง Rocky แล้วสร้างอนาคตใหม่ แต่ว่าควรจะให้น้ำหนักแล้วก็เหตุผลการหายไปของนักแสดง Rocky หน่อยก็ยังดี แม้เหตุผลการถอนตัวของ Stallone เป็นข้อคิดเห็นมีความขัดแย้งกับคนอื่นๆก็ตาม พอเพียงไม่มีผู้แสดงนี้ เฟสเขียว 3 บรรทัด
การตัดสินใจของ Adonis ในภาคนี้จะเสมือนแปลงเป็นคนต้องการชำระแค้นต้องการเอาชนะ ตกลงใจไม่สมกับเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาล้นหลาม
แต่ว่าสิ่งที่น่าชื่นชอบที่สุดในหัวข้อนี้เป็นฉากบนเวทีนั่นแหละ ดุดัน จัดหนัก จัดเต็ม บางครั้งอาจจะมิได้มีฉาก Long Take ล้ำๆเสมือนอย่างภาคแรก หรือดราม่าบนเวทีเสมือนภาค 2 แม้กระนั้นมันถูกชดเชยด้วยเสียง sfx แน่นๆ, ดนตรีประกอบสนุกๆ, การตัดสลับมุมคมๆ, มุมภาพ CU+ECU, การ slow-motion สุดล้ำมองเห็นเม็ดเหงื่อ น้ำลายกระเด็น, มีความแฟนตาซีด้วย เป็นดูแล้วเพลิดเพลินบันเทิงใจมากมายจริงๆโดยยิ่งไปกว่านั้นซีนซัดกันของ Adonis กับ Damian สนุกมากมาย โชคร้ายที่แอบมีความรู้สึกว่าการปูมาถึงจุดไคลแม็กปะทะกันตอนสุดท้ายมันรวดเร็วทันใจมากมาย แล้วก็ฉากสู้กันก็จบหาทางลงง่ายไปเสียหน่อย
การแสดงอันน่าชมในหัวข้อนี้ขอชูให้กับ Jonathan Majors เลย การปรากฏตัวแต่ละฉากแต่ละซีนมองมีของมากมายๆมองอันตราย บทจะร้ายก็ร้ายถึง บทจะน่าสงสารก็ทำเป็นดี เป็นพวกเราว่าแทบกลบการแสดงของ Michael B. Jordan อย่างยิ่งจริงๆ ยิ่งตอนลงนวมอิริยาบถเป็นเอกลักษณ์มากมาย ดูดุดันมากมายจริงๆเป็นไม่ใช่ว่า Michael B. Jordan แสดงไม่ดีนะ แต่ว่าในภาคนี้การแสดงของเขา บางทีก็อาจจะเนื่องจากว่าด้วยบทก็มิได้มีอะไรที่ต่างกันหรือชวนมองไปๆมาๆกกว่า 2 ภาคแรกสักเท่าไหร่
สรุปแล้ว Creed III ยังคงเป็นหนังชกมวยดราม่า ที่ในภาคนี้ฉากบนสังเวียนเดือด บันเทิงใจแล้วก็เพลิดเพลินมากมาย ถึงจะยังคงมีดราม่าแม้กระนั้นก็มิได้ขยี้ได้มากสักเท่าไหร่ และไม่ค่อยมีเหตุผลมากแค่ไหน หัวข้อก็มากเหลือเกิน การไม่มีนักแสดง Rocky ก็มีผลมากยิ่งกว่าที่คิด ในรูปภาพรวมบางทีอาจมิได้น่าประทับใจเท่าภาคแรก แม้กระนั้นก็ยังตอบปัญหาความเป็นหนังชกมวยดราม่าได้อย่างดีเยี่ยม